โรค ท่อน้ำดีอักเสบ (Acute cholangitis) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

ท่อน้ำดีอักเสบ..ถึงชื่อไม่คุ้น แต่อันตรายถึงชีวิต

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค

เมื่อใดก็ตามที่นิ่วในทางเดินน้ำดีอุดตัน หรือ ภาวะอื่นใดที่ทำให้ทางเดินน้ำดีอุดตัน จะสามารถทำให้เกิดการอักเสบในทางเดินน้ำดี จากน้ำดีที่ท้นกลับไป หรือ การติดเชื้อได้ในทางเดินน้ำดี ซึ่งมักมีอาการรุนแรง และ ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน

อาการของโรค

อาการที่จำเพาะต่อโรคทางเดินน้ำดีอักเสบประกอบด้วย 3 อย่างคือ

  • มีไข้
  • ปวดท้อง
  • ตัวเหลือง/ตาเหลือง (Charcot’s triad) แต่มีเพียงประมาณ 50-75% เท่านั้นที่พบได้ทั้งหมด 3 อย่าง อาการที่มักพบเป็นส่วนใหญ่ของผู้ป่วยที่เป็นท่อน้ำดีอักเสบ คือ อาการไข้ร่วมกับปวดท้อง ซึ่งพบได้ประมาณ 80% ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ โดยที่ตัวเหลืองตาเหลืองสามารถพบได้ประมาณ 60-70% ของผู้ป่วยทั้งหมด อาการอื่นๆ ที่สามารถพบได้ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง คือ มีอาการของความดันโลหิตต่ำ เช่น เหงื่อแตก ใจสั่น ปัสสาวะออกน้อยลง หน้ามืดบ่อย ไม่มีแรง และความรู้สึกตัวน้อยลง

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

  • ตรวจเลือด เพื่อดูการทำงานของตับอ่อน เช่น เอนไซม์อะไมเลส (Amylase) เอนไซม์ลิเพส (Lipase) ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC) และการทำงานของตับ (Liver Function Test: LFT) รวมทั้งตรวจหาการติดเชื้อ
  • อัลตราซาวด์ (Ultrasound) เพื่อดูว่าทางเดินน้ำดีมีขนาดใหญ่มากขึ้นหรือไม่ หรือเพื่อหาถึงสาเหตุถึงการอุดตันของทางเดินน้ำดี เช่นการที่มีนิ่วอุดตันในทางเดินน้ำดีเป็นต้น
  • การตรวจอื่น ๆ หากจำเป็น เช่น เอกซเรย์ ทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือซีทีสแกน (Computerized Tomography Scan: CT scan) ทำเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือเอ็มอาร์ไอ (Magnetic Resonance Imaging: MRI)

แนวทางการดูแลรักษา

  • การรักษาเบื้องต้น ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตุอาการ งดน้ำงดอาหารเพื่อเตรียมเข้ารับการผ่าตัดในกรณีที่มีความจำเป็น เนื่องจากผู้ป่วยมักจะมีโอกาสอาการรุนแรงได้มากขึ้น และจะมีการให้การรักษาอีกหลายชนิดดังนี้
  • การให้สารน้ำ ทางเส้นเลือด
  • การแก้ค่าเกลือแร่ ที่ผิดปกติจากผลเลือด
  • การให้ยาแก้ปวด ตามความเหมาะสม
  • การให้ยาปฎิชีวนะ ทางเส้นเลือด
  • การรักษาเพื่อระบายน้ำดี ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงมากนักควรได้รับการระบายน้ำดีออกภายใน 24-48 ชั่วโมง ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ควรได้รับการระบายน้ำดีภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าไม่มีข้อห้าม

แพทย์เฉพาะทางแนะนำ

ศัลยแพทย์ตับ ตับอ่อน และทางเดินน้ำดี, อายุรแพทย์ระบบทางเดินอาหาร, กุมารแพทย์ ระบบทางเดินอาหาร กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี

ข้อควรระวัง

โรคท่อทางเดินน้ำดีอักเสบเป็นโรคที่สามารถมีอาการรุนแรงได้และมักดำเนินโรคไปในทางที่แย่ลงอย่างรวดเร็วถ้าไม่ได้รับการรักษา ผู้ที่มีอาการเข้าได้กับโรคนี้ควรเข้ารับการรักษาโดยเร็ว

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/january-2014/biliary-obstruction-explained

บทความที่เกี่ยวข้อง

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ริดสีดวงทวาร ที่มีภาวะแทรกซ้อน (Strangulated/Thrombosed Hemorrhoids)

ริดสีดวงทวาร ที่มีภาวะแทรกซ้อน (Strangulated/Thrombosed Hemorrhoids)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ริดสีดวงทวาร หมายถึง การมีกลุ่มของหลอดเลือดดำบริเวณปลายสุดของลำไส้ใหญ่และที่ขอบรูทวารหนักโป่งพองและยื่นออกมา แบ่งเป็น 2 ชนิด 1. ริดสีดวงทวารชนิดเป็นภายใน หมายถึง ริดสีดวงทวารที่เกิดเหนือทวารหนักขึ้นไปตามปกติจะไม่โผล่ออกมาให้เห็น และ คลำไม่ได้และมักจะถูกคลุมด้วยเยื่อลำไส้ใหญ่ตอนปลายสุด จะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดในขณะที่ยังไม่มีอาการแทรกซ้อน 2. ริดสีดวงทวารชนิดเป็นภายนอก หมายถึง ริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณปากรอยย่นของทวารหนัก สามารถมองเห็น และ คลำได้หลอดเลือดที่โป่งพ

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ไส้เลื่อนขาหนีบที่มีภาวะแทรกซ้อน (Complicated Inguinal Hernia)

ไส้เลื่อนขาหนีบที่มีภาวะแทรกซ้อน (Complicated Inguinal Hernia)

ไส้เลื่อนขาหนีบที่มีภาวะแทรกซ้อน คุณผู้ชายควรอ่านไว้ก่อน! ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ไส้เลื่อน (Hernia) คือ ภาวะที่ลำไส้เคลื่อนตัวออกมาจากตำแหน่งเดิม และทำให้เห็นเป็นลักษณะคล้ายก้อนตุง ซึ่งเกิดจากความอ่อนแอของผนังช่องท้องที่มีมาแต่กำเนิด หรือเกิดภายหลังเช่น จากการผ่าตัด ภาวะแรงดันที่มากผิดปกติภายในช่องท้อง เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ อาทิ เบ่งจากภาวะท้องผูก การไอหรือจาม การยกของหนัก โดยภาวะไส้เลื่อนสามารถแบ่งออกเป็นประเภทตามบริเวณตำแหน่งการเกิดโรคที่พบได้บ่อยดังนี้ * ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (Ingu

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ท้องผูก (Constipation (unspecified))

ท้องผูก (Constipation (unspecified))

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ท้องผูกเป็นปัญหาที่พบเจอได้ทั่วไป ซึ่งเป็นคำเรียกของการถ่ายอุจจาระยากกว่าปกติ รวมไปถึงอาการของ อุจจาระแข็งมากกว่าปกติ อุจจาระเล็กกว่าปกติ การถ่ายอุจจาระยากกว่าปกติ และการถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ สาเหตุของท้องผูกที่พบเจอได้บ่อยเช่น ผลข้างเคียงจากการทานยา, การรับประทานอาหารน้อยกว่าปกติ และ โรคทางระบบทางเดินอาหาร อาการของโรค อาการของท้องผูกคืออุจจาระแข็งมากกว่าปกติ อุจจาระเล็กกว่าปกติ การถ่ายอุจจาระยากกว่าปกติ และการถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ควรเฝ้าระว

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (Acute cholecystitis)

ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน (Acute cholecystitis)

ปวดท้องรุนแรง จุกเสียดแน่นท้องบริเวณลิ้นปี่ เสี่ยงถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน ! ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ถุงน้ำดี คือ อวัยวะภายในร่างกาย อยู่บริเวณส่วนล่างของตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ไว้เก็บน้ำดีที่สร้างมาจากตับ โดยที่น้ำดีเป็นน้ำมีส่วนสำคัญในการช่วยย่อยไขมันที่เรารับประทานเข้าไปเพื่อสร้างเป็นพลังงานต่อไป หากเกิดการอุดตันของน้ำดี จะส่งผลให้ถุงน้ำดีบวม อักเสบ และ เกิดอาการปวดได้ การอุดตันของน้ำดีมักมีสาเหตุมาจากนิ่วอุดตันในท่อถุงน้ำดี รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับท่อน้ำดีและเนื้องอกอื่น ๆ อาการของโรค

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • กระเพาะอาหารอักเสบ (Dyspepsia)

กระเพาะอาหารอักเสบ (Dyspepsia)

ปวดท้องตรงกลาง...เสี่ยงกระเพาะอาหารอักเสบติดเชื้อ? ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค กระเพาะอาหารอักเสบหรือโรคกระเพาะ เกิดจากการอักเสบ หรือ เกิดการระคายเคือง บริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร สามารถเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลันในระยะเวลารวดเร็ว และ หายภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือ มีอาการบ่อยครั้งเป็นระยะเวลานานจนเกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดแผล และ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ โรคกระเพาะอาหารอักเสบยังไม่พบสาเหตุการเกิดโรคที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดได้จาก 2 สาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่ การ