โรค ไซนัสอักเสบ (Acute non-bacterial sinusitis) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

น้ำมูกเขียว คุณอาจเป็นไซนัสอักเสบ

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค

โรคไซนัสอักเสบ เกิดจากเยื่อบุไซนัสติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียที่ผ่านเข้ามาทางกระบวนการหายใจ จนเนื้อเยื่อเกิดอาการบวม สารคัดหลั่งเมือกเหลวที่ถูกผลิตขึ้นจึงเกิดการอุดตันกลายเป็นหนองอักเสบหรือน้ำมูกเขียวข้น ทำให้เกิดการคัดจมูก น้ำมูกไหล มีอาการปวดบริเวณไซนัสที่อักเสบ และมีอาการป่วยอื่น ๆ ตามมา ไซนัสอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส พบในอัตรา 90% ของผู้ป่วย หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือการพัฒนาโรคที่รุนแรงขึ้น อาการจะทุเลาลงและหายดีเองภายในเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ในขณะที่การติดเชื้อแบคทีเรียจนทำให้ไซนัสอักเสบจะพบได้ไม่บ่อยนัก ประมาณ 5-10% เท่านั้น และต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะ มักมีอาการนานกว่า 10 วัน หรืออาการแย่ลงหลังจากเป็นมานาน 5 วัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้อาการอักเสบยังคงอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่ทุเลาลง หรือลุกลามยาวนานจนกลายเป็นไซนัสอักเสบระยะเรื้อรัง มีหลายปัจจัย เช่น การป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้อากาศและหอบหืด การเกิดเนื้องอกในจมูก การเกิดผนังกั้นช่องจมูกคด การมีภูมิคุ้มกันต่ำ และการสูบบุหรี่ เป็นต้น

อาการของโรค

โรคไซนัสอักเสบเฉียบพลัน คือผู้ป่วยมีอาการไม่เกิน 4 สัปดาห์ โรคไซนัสอักเสบชนิดกึ่งเฉียบพลัน คือผู้ป่วยมีอาการตั้งแต่ 4-12 สัปดาห์ โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง คือผู้ป่วยมีอาการตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และอาจมีอาการของโรคไซนัสอักเสบเฉียบพลันแทรกเป็นระยะๆได้

อาการของโรคไซนัสอักเสบมักมีอาการดังต่อไปนี้

  • มีน้ำมูกหรือมีเสมหะที่มีลักษณะข้น สีเหลืองหรือเขียวในลำคอ หรือไหลลงคอ
  • หายใจติดขัด อึดอัด คัดจมูก
  • ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น หรือคนรอบข้างบอกว่ามีกลิ่น
  • สามารถไอหรือเจ็บคอได้
  • การรับรู้กลิ่นหรือรสชาติแย่ลง
  • ปวดบริเวณหัวตา หน้าผาก โหนกแก้ม จมูกบริเวณระหว่างคิ้ว และรอบๆ กระบอกตา
  • อาจปวดหัว มีไข้ อ่อนเพลีย หรือไอเรื้อรังร่วมด้วย

แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค

โดยทั่วไปการวินิจฉัยอาศัยลักษณะทางคลินิกเป็นส่วนใหญ่ ได้จากการซักประวัติ และการตรวจโพรงจมูก สำหรับภาพรังสีเอกซเรย์นั้นมีส่วนช่วยเฉพาะในรายที่อาการและอาการแสดงไม่สัมพันธ์กันหรือในรายที่ยากต่อการวินิจฉัย การตรวจเพิ่มเติมอื่นๆเช่น

  • การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
  • การตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI scan)

แนวทางการดูแลรักษา

  • ในผู้ป่วยไซนัสอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส ส่วนใหญ่ให้การรักษาตามอาการ เช่น ให้ยาแก้ปวด, ให้ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือและให้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก
  • ในผู้ป่วยไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ถ้าผู้ป่วยมีอาการไม่มาก เช่น ปวดเล็กน้อย ไข้ต่ำกว่า38.3°C แนะนำให้สังเกตอาการและรักษาตามอาการเช่นกัน แต่ควรพิจารณาพบแพทย์เพื่อรับยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ เมื่ออาการของผู้ป่วยไม่ดีขึ้น หรือมีเลวลงภายใน 7 วัน

แพทย์เฉพาะทางแนะนำ

หู คอ จมูก, กุมารแพทย์ กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี

ข้อควรระวัง

ผู้ป่วยที่มีอาการดังต่อไปนี้ ควรเข้าพบแพทย์เนื่องจากอาจมีภาวะแทรกซ้อนของโรคไซนัสอักเสบ

  • เกิดภาวะประสาทรับกลิ่นแย่ลง (Hyposmia) หรือสูญเสียประสาทรับกลิ่น (Anosmia)
  • การติดเชื้อซ้ำซ้อน บริเวณเยื่อบุไซนัสอาจอักเสบซ้ำได้ด้วยสาเหตุอื่น ซึ่งจะเป็นผลให้อาการป่วยทรุดลงหรือพัฒนาไปสู่ภาวะไซนัสอักเสบเรื้อรัง
  • การติดเชื้อที่อวัยวะและโครงสร้างเซลล์บริเวณใกล้เคียงกับไซนัส เป็นกรณีที่อาจเกิดขึ้นได้แต่ไม่บ่อยนักแต่จัดว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การอักเสบที่ดวงตา เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ การอักเสบของกระดูกและไขกระดูก เป็นต้น ซึ่งจะมีอาการไข้สูงและปวดมากชัดเจน ร่วมกับมีการบวมตามตำแหน่งที่อักเสบ และอาจจะมีลักษณะคล้ายหนองอยู่ภายใน

ข้อมูลเพิ่มเติม

https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=446 http://www.rcot.org/2016/People/Detail/67

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

หญิง | อายุ 33 ปี

ไซนัสอักเสบ (Acute non-bacterial sinusitis)

  • ปวดหัว
  • ไซนัสอักเสบ

หนูมีอาการปวดหัวมาได้ระยะหนึ่ง(ประมาณ1สัปดาห์) เริ่มแรกมีอาการปวดหัวบริเวณใกล้ท้ายทอยและปวดกระบอกตา เป็นมากในช่วงตื่นนอนตอนเช้า หลังจากนั้นก็ขยับมาปวดหัวบริเวณกลางหัว และในบางวันอาการปวดหัวมีอยู่ตลอดวันปะปราย และเหมือนเจ็บๆในแก้วหู ปวดเมื่อยตัว ไม่ค่อยมีแรง เป็นมากช่วงตื่นตอนเช้า บางวันหนูมีไข้ต่ำแต่ตอนนี้ไข้หายไป แต่ยังคงปวดหัวอยู่ เมื่อคืนมีน้ำมูกและปวดหัวบริเวณกลางหัวและปวดกระบอกตาด้วยค่ะ สอบถามว่าหนูเป็นอะไรคะ ไม่เคยปวดหัวนานแบบนี้เลย ก่อนหน้านี้หนูนอนดึกสะสมกันและเครียด แต่ตอนช่วงนี้พยายามนอนไวขึ้น ไม่เครียด มีทานยาพาราเซตามอล และมีทานยานอจีสิคในบางวัน แต่ตื่นมาก็ยังปวดหัว(ก่อนหน้านี้ หนูไปกัดสีผม แล้วเหมือนจะหัวระบมเจ็บๆ หนังศีรษะลอก แต่ตอนนี้ความเจ็บหนังศีรษะหายไปแล้ว แต่หนังศีรษะยังลอกเป็นรังแคอยู่ น่าจะเพราะการกัดสีผมแล้วน้ำยาแรงมาก และทานร้านมีการนวดกดจุดตอนสระผมให้ด้วย แต่ร้านกดแรง ตรงที่ร้านนวดกดให้ ก่อนหน้านี้เจ็บแต่ดีขึ้นบ้างแล้วค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับอาการปวดหัวมั้ยคะ) หนูรบกวนสอบถามค่ะ กังวลใจมากๆค่ะ 😣🙏🏻

thumbs-up

0

thumbs-upแพทย์ตอบคำปรึกษาแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง

article-cover
  • จมูก, ทางเดินหายใจ
  • ปอดอุดกั้นกำเริบเฉียบพลัน (COPD with Acute Exacerbation)

ปอดอุดกั้นกำเริบเฉียบพลัน (COPD with Acute Exacerbation)

ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic obstructive pulmonary disease หรือ COPD) เป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก ซึ่งเป็นผลจากการที่ทางเดินหายใจตีบแคบลงและเสียหายไป โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเกิดจากโรคถุงลมโป่งพอง (emphysema) และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (chronic bronchitis) ซึ่งเป็นสองโรคที่พบร่วมกันเสมอ ผู้ที่เป็นโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังจะมีอาการเหนื่อยง่ายมากกว่าคนทั่วไป และถ้าอาการรุนแรงมากขึ้นทันที จะเรียกว่าโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังกำเริบเฉียบพลัน (COPD with Acute Exacerb

article-cover
  • จมูก, ทางเดินหายใจ
  • หอบหืดกำเริบ (Acute asthmatic attack)

หอบหืดกำเริบ (Acute asthmatic attack)

หอบหืดกำเริบเกิดจาก อากาศเปลี่ยน หรือ ภูมิแพ้ไหม? ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค โรคหอบหืดเป็นโรคที่ทำให้หายใจลำบาก อาการของโรคหอบหืดสามารถเป็นได้ทั้งอาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการรุนแรง และสามารถมีอาการเป็นๆหายๆได้ บางครั้งอาการของโรคหอบหืดสามารถเป็นได้อย่างกะทันหัน ซึ่งสามารถเป็นได้อย่างรุนแรง ที่เรียกว่าโรคหอบหืดกำเริบ (Acute asthmatic attack) อาการของโรคหอบหืดเกิดจากมีการอักเสบทางเดินหายใจภายในปอดจนทำให้เกิดการตีบแคบของทางเดินหายใจ โรคหอบหืดเกิดได้จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ผ

article-cover
  • จมูก, ทางเดินหายใจ
  • ปอดติดเชื้อ (Pneumonia)

ปอดติดเชื้อ (Pneumonia)

ปอดติดเชื้อ อันตราย! อย่าปล่อยให้อาการรุนแรง ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค ปอดติดเชื้อเป็นภาวะติดเชื้อเฉียบพลันทางระบบทางเดินหายใจหรือการติดเชื้อที่เนื้อปอด ทำให้เกิดอาการปอดบวมและมีหนองขัง ซึ่งหากเกิดการติดเชื้อที่รุนแรง อาจเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้ ปอดติดเชื้อมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ หัด อีสุกอีใส ฯลฯ นอกจากนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้อสแตฟฟีโลค็อกคัส (Staphylococcus) เชื้อนิวโมค็อกคัส (Pneumococcus) ตลอดจนเชื้อรา ซึ่งแพร่กระจายจากการหายใจ เอาเชื้อเข้าส

article-cover
  • จมูก, ทางเดินหายใจ
  • ถุงลมโป่งพอง (Emphysema)

ถุงลมโป่งพอง (Emphysema)

เหนื่อยง่าย.. สังเกตดีดี อาการนี้อาจเป็นถุงลมโป่งพอง ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค เป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (Chronic Obstructive Pulmonary Disease: COPD) เกิดจากการ อักเสบและแตก ที่บริเวณถุงลมปอด ทำให้เนื้อปอดมีถุงลมเล็กๆ มากมายคล้ายพวงองุ่น จนกลายเป็นถุงลมขนาดใหญ่ จึงทำให้มีพื้นผิวในการแลกเปลี่ยนออกซิเจนในปอดลดลงหรือมีอากาศค้างในปอดมากกว่าปกติ ซึ่งหากเกิดความผิดปกติมากขึ้นก็จะทำให้ผู้ป่วยถุงลมโป่งพองมีอาการหายใจตื้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดถุงลมโป่งพอง คือการสูบบุหรี่ จากก