โรค อัณฑะบิดขั้ว (Torsion testis) เกิดจากอะไร และวิธีการรักษาเบื้องต้นเป็นอย่างไร


เขียนโดย
ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค
ภาวะอัณฑะบิดขั้วหรืออัณฑะบิดตัวเป็นภาวะฉุกเฉิน เกิดขึ้นเมื่อหลอดนำอสุจิบิดตัวและไปหยุดการไหลเวียนของเลือด ทำให้อัณฑะขาเกิดอาการปวดฉับพลันและบวม ภาวะอัณฑะบิดขั้วสามารถเกิดขึ้นได้กับชายทุกวัย แต่พบบ่อยในเด็กชายอายุระหว่าง 12 – 18 ปี ซึ่งอาจเกิดจากการออกกำลังกายอย่างหักโหม เกิดขึ้นในขณะนอนหลับ หรือ หลังจากที่ถุงอัณฑะได้รับบาดเจ็บ และ หลายกรณีไม่สามารถหาสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดภาวะนี้ได้
อาการของโรค
- รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงในถุงอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง อาการปวดมักคงที่เท่าๆ เดิม ไม่มีอะไรที่ทำให้อาการปวดลดลง
- อัณฑะข้างที่ปวดจะมีอาการบวมขึ้น
- คลื่นไส้และอาเจียน
- บางครั้งอาจปวดร้าวขึ้นไปที่ขาหนีบและช่องท้องข้างเดียวกันได้
แนวทางการตรวจวินิจฉัยโรค
แพทย์จะทำการซักประวัติอาการ และตรวจร่างกาย โดยจะตรวจถุงอัณฑะ ลูกอัณฑะ ท้องน้อย และขาหนีบ ถ้าหากอาการหรือตรวจร่างกายได้ผลไม่ชัดเจนแพทย์อาจส่งตรวจเพิ่มเติม คือ
- การอัลตร้าซาวด์อัณฑะ ทำให้สามารถเห็นภาพภายในอัณฑะและสามารถตรวจดูลักษณะการไหลเวียนของโลหิตได้
- การตรวจปัสสาวะหรือการตรวจเลือด เพื่อดูว่าอาการปวดที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการติดเชื้อของอัณฑะ ซึ่งมีอาการปวดที่ใกล้เคียงกับอาการของภาวะอัณฑะบิดขั้ว
แนวทางการดูแลรักษา
เมื่อเกิดภาวะอัณฑะบิดขั้วแพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดทันที เพื่อรักษาลูกอัณฑะไว้ หากปล่อยให้เกิดภาวะนี้นานเกินกว่า 4 ชม. อาจส่งผลให้ลูกอัณฑะเกิดความเสียหายอย่างถาวร และ ต้องตัดลูกอัณฑะทิ้งไปในที่สุด
แพทย์เฉพาะทางแนะนำ
ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ, ศัลยแพทย์เด็ก กรณีอายุน้อยกว่า 15 ปี
ข้อควรระวัง
ผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับโรคอัณฑะบิดขั้ว ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วน
ข้อมูลเพิ่มเติม
https://hd.co.th/testicular-torsion-condition https://www.aafp.org/afp/2013/1215/p835.html