เป็นโรคซึมเศร้าก็สามารถเห็นภาพหลอนได้ !

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

หลายๆคนอาจคุ้นเคยกับ โรคซึมเศร้า กันดีอยู่แล้ว และคงอาจเคยได้ยินประเภทต่างๆของโรคซึมเศร้ากันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็น โรคซึมเศร้าหลังคลอด โรคซึมเศร้าเรื้อรัง โรคซึมเศร้าที่เกิดจากความผิดปกติของการปรับตัวผิดปกติ

แต่วันนี้ Agnos จะพามาทำความรู้จักกับอีกประเภทของโรคซึมเศร้าที่หลายๆคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนกับ โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน

คนที่เป็นโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน พวกเขามีอาการอะไร เหมือนคนที่เป็นโรคจิตมั้ย ? วันนี้ Agnos จะพามาหาคำตอบกัน !


โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน คืออะไร ?

โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน (Psychotic depression หรือ Major depression with psychotic feature) คืออีกหนึ่งประเภทของโรคซึมเศร้าที่ค่อนข้างรุนแรง โดยผู้ป่วยจะเป็นโรคซึมเศร้าควบคู่ไปกับอาการจิตประสาท หรือ จิตหลอน เช่น ได้ยิน หรือเห็นภาพหลอน (Hallucinations) หรือ อาการหลงผิด (Delusions) อย่างการรู้สึกไร้ค่า รู้สึกล้มเหลว หรือเชื่อว่าตัวเองนั้นได้ทำอะไรผิดร้ายแรงอย่างมาก

นอกจากนี้ 1 ใน 4 ของผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้า อาจมีภาวะจิตหลอนควบคู่กับโรคซึมเศร้าด้วย

แต่ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกกับโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน

เรามาทบทวนอาการของโรคซึมเศร้าทั่วไปกันก่อน !  

อาการของโรคซึมเศร้าทั่วไป

หากมีอาการเหล่านี้เกิน 5 ข้อเป็นเวลานานเกินสองอาทิตย์ อาจคุณอาจเสี่ยงโรคซึมเศร้า ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

  • มีอาการเศร้า เบื่อ หรือท้อแท้
  • หงุดหงิดง่ายและบ่อย
  • พฤติกรรมการกินอาหารเปลี่ยนไป (กินมากไป หรือน้อยไป) จนส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก
  • พฤติกรรมการนอนเปลี่ยนไป (นอนไม่หลับหรือนอนมากไป)
  • เฉื่อยชา เหนื่อย ไม่ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบเหมือนเมื่อก่อน
  • รู้สึกไร้ค่า ชอบโทษตัวเอง
  • รู้สึกไม่มีสมาธิ ไม่สามารถตัดสินใจได้ ความสามารถในการจดจำน้อยลง
  • มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย

อาการทางร่างกาย

  • น้ำหนักขึ้น หรือลดอย่างฉับพลัน
  • เคลื่อนไหว หรือพูดช้าลง
  • เจ็บปวดตามร่างกาย อย่างไม่ทราบสาเหตุ
  • เหนื่อยล้า และอ่อนเพลีย
  • แรงขับทางเพศลดลง
  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือน้อยลง

อาการของโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอนที่อาจต่างจากโรคซึมเศร้าทั่วไป

  • อาจมีภาวะวิตกกังวลกับความเจ็บปวด (Hypochondria) หรือเชื่อว่าตัวเองนั้นป่วยทั้งๆที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคใดโรคหนึ่ง
  • มีความผิดปกติทางสติปัญญา
  • ความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวทางกายภาพ
  • มีอาการจิตหลอน (Hallucinations) เช่น การเห็นภาพหลอนหรือได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง
  • มีอาการหลงผิด (Delusions)

อาการหลงผิดและเห็นภาพหลอน เป็นหนึ่งในอาการของโรคจิตเภทไม่ใช่หรอ..?

งั้นแปลว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน คือ ผู้ป่วยโรคจิตเภทหรือเปล่า ?


โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน (Psychotic depression) VS โรคจิตเภท (Schizophrenia)

จริงอยู่ที่ทั้งสองโรคนี้อาจมีภาวะจิตหลอนได้ แต่ก็มีความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจนเช่นกัน โดย

การเกิดอาการจิตหลอนในโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน :

จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่ผู้ป่วยอยู่ในช่วงภาวะซึมเศร้าเท่านั้น โดยภาวะจิตหลอนมีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางอารมณ์ (Mood Disorder)

ส่วนมากอาการจิตหลอน ไม่ว่าจะเป็นการเห็นภาพหลอน ได้ยินเสียง หรืออาการหลงผิด จะเกี่ยวข้องกับต้นเหตุของความเศร้าที่เกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ที่อาจกระทบกระเทือนจิตใจของผู้ป่วย เช่น ความล้มเหลว หรือความไร้ค่า

การเกิดอาการจิตหลอนในโรคจิตเภท :

จะเกิดเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางอารมณ์ หรือมีอารมณ์เป็นปัจจัยกระตุ้น

อาการจิตหลอนในผู้ป่วยจิตเภทอาจมีความแปลกและไม่เป็นจริงอยู่มาก เช่น คิดว่ามีคนกำลังแอบสะกดรอยตัวเอง มีเสียงในหัวให้ทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น หรือกลัวและระแวงคนมาทำร้าย เป็นต้น


โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอนรักษาได้มั้ย..?

เช่นเดียวกับโรคซึมเศร้าแบบอื่นๆ โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอนสามารถรักษาให้หายได้ แต่ปัญหาที่อาจพบบ่อยคือ ผู้ป่วยอาจอายหรือไม่กล้าบอกหรือพูดถึงอาการที่เข้าข่ายอาการจิตหลอน จึงอาจทำให้ยากที่จะวินิจฉัยได้

โดยปกติแล้ว การรักษาโรคซึมเศร้าแบบจิตหลอนจะใช้การรักษาด้วยยาเป็นหลัก แต่หากอาการไม่ดีขึ้น อาจมีการบำบัดด้วยไฟฟ้า (Electroconvulsive Therapy – ECT)  ร่วมด้วย

โดยกระแสไฟฟ้าจะไปกระตุ้นให้สารสื่อประสาทภายในสมองที่หลั่งผิดปกติเนี่ย กลับมาทำงานให้มั่นคงและสม่ำเสมอ

การบำบัดในลักษณะนี้ มีผลดีต่ออาการทางจิต เช่น สภาวะทางอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก รวมถึงพฤติกรรมด้วย

ถึงแม้โรคซึมเศร้าแบบจิตหลอน อาจมีอาการที่น่ากังวลกว่าโรคซึมเศร้าทั่วไป แต่ใช่ว่าโรคซึมเศร้าทั่วไปจะไม่อันตราย สัญญาณและอาการของโรคซึมเศร้าทั่วไปก็ไม่สามารถละเลยได้เช่นกัน

หากใครยังไม่แน่ใจอาการที่เราเป็น สามารถทำแบบทดสอบคัดกรองโรคซึมเศร้าได้ที่ Links : https://www.agnoshealth.com/services/mental_screening

อ้างอิง : https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3686458/

https://www.healthline.com/health/depression/psychotic-depression#What-is-psychotic-depression?

https://www.webmd.com/depression/guide/psychotic-depression#091e9c5e80008719-2-4

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/โรคคิดไปเองว่าป่วย-hypochondriasis-หา/

https://www.agnoshealth.com/articles/health-wellness-depression

https://www.healthline.com/health/depression/psychotic-depression#What-is-psychotic-depression?

บทความที่เกี่ยวข้อง

article-cover
  • mental health

โรคซึมเศร้า…ควรเริ่มรักษาอย่างไร เช็กอาการเบื้องต้น และรักษาที่ไหนดี?

ก่อนอื่นอยากให้รู้กันก่อนว่า คำว่า “โรค” บ่งว่าเป็นความผิดปกติทางการแพทย์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อให้อาการทุเลา ต่างจากภาวะอารมณ์เศร้าตามปกติธรรมดาที่ถ้าเหตุการณ์ต่างๆ รอบตัวคลี่คลายลง หรือมีคนเข้าใจเห็นใจ อารมณ์เศร้านี้ก็อาจหายได้ คนที่เป็นโรคซึมเศร้านอกจากมีอารมณ์ซึมเศร้าร่วมกับอาการต่างๆ แล้ว การทำงานหรือการประกอบกิจวัตรประจำวันก็แย่ลงด้วย (rama.mahidol.ac.th) ในวันที่เรารู้สึกเศร้าจนคิดว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า? อาจมีเรื่องที่คุณอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า  หร

article-cover
  • Depression
  • mental health

โรคซึมเศร้า ! กับ 6 เรื่องเข้าใจผิด

ถึงแม้ว่าในสมัยนี้ผู้คนจะเปิดรับ และเข้าใจเกี่ยวกับ โรคซึมเศร้า มากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีอีกหลายๆคนที่ยังมองว่า โรคซึมเศร้า นั้นไม่ได้มีอยู่จริง และเป็นเพียงการคิดไปเองเท่านั้น ! วันนี้ Agnos อยากจะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ เรื่องที่คุณอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับ โรคซึมเศร้า ! ซึ่งคุณอาจจะรู้อยู่แล้ว หรือไม่รู้ก็เป็นได้ ! เรามาเริ่มกันที่เรื่องแรกกันเลย ~ 1. โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่ทำให้เราเศร้าเท่านั้น ไม่ได้มีอาการอื่นๆ เรื่องนี้เป็น เรื่องเข้าใจผิดอย่างแรง อารมณ์เศร้

article-cover
  • mental health

ความเครียด ! ภัยเงียบวัยทำงาน อันตรายมากกว่าที่คิด !

ความเครียดและการทำงาน อาจเป็นของที่มาคู่กันเสมอ แต่หากความเครียดนั้นมีมากจนเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งร่างกายและจิตใจของเราอย่างคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ! ข้อมูลจากผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของซิกน่า (Cigna) บริษัทประกันสุขภาพระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า คนไทยกว่า 91% คิดว่าและยอมรับว่าตัวเองนั้น อยู่ในภาวะเครียด ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขนี้บ่งบอกสภาพสังคมการทำงานในประเทศไทยได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตัวเลข 91% นี้ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอีกด้วย โดยค่าเฉ