อาหารเป็นพิษ โรคยอดนิยมหน้าร้อน !

วันที่โพสต์:
feature-image-blurfeature-image

เขียนโดย

ตรวจสอบข้อมูลโดย

_review_nick-profile-picture

แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน

โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

แชร์บทความ

share-optionshare-optionshare-optionshare-option

ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ‘ อาหารเป็นพิษ ’ คงจะเป็นอีกหนึ่งโรคที่เราอาจต้องระวังไว้ !

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน และคุ้นเคยกับคำพูดที่ว่า

‘ ตามใจปาก ลำบากท้อง ‘ กันอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารเป็นพิษ ที่หลายๆคนอาจคิดว่าเป็นโรคทั่วไป ไม่ได้อันตรายใดๆ แป๊บเดียว เดี๋ยวก็หาย แต่จริงๆแล้ว อาหารเป็นพิษอาจอันตรายมากกว่านั้น..!

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับหนึ่งในโรคยอดฮิตหน้าร้อน อย่าง อาหารเป็นพิษ กัน….!

อาหารเป็นพิษ คืออะไร ?

อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) เกิดจากการกินอาหาร น้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค หรือ สารพิษเข้าไป โดยส่วนมากจะมีอาการหลังกินอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารพิษไป 2-6 ชั่วโมง

อาการหลักๆของอาหารเป็นพิษ คือ

  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ปวดหัว
  • ถ่ายอุจจาระบ่อย หรือเกินวันละ 3 ครั้ง
  • ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • อ่อนเพลีย หิวน้ำ เหนื่อยง่าย เนื่องจากร่างกายขาดน้ำ

โดยปกติอาหารเป็นพิษ สามารถหายได้เองในวันหรือสองวัน แต่หากเป็น อาหารเป็นพิษชนิดรุนแรง อาจมีอาการดังนี้

  • อาเจียนและถ่ายอุจจาระมากกว่า 8-10 ครั้งต่อวัน
  • มีไข้.  
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ซึม
  • มือเท้าเย็น
  • ปัสสาวะน้อย หรือมีสีเข้ม

**สำหรับผู้ป่วยเด็ก อาจมีอาการตาโหล ปากแห้ง รวมถึงปัสสาวะออกน้อยลง  หรือไม่ปัสสาวะเป็นเวลานานมากกว่า

เชื้อโรคอะไรที่ทำให้เราเป็นอาหารเป็นพิษได้ล่ะ..?

ส่วนมากแล้วอาหารที่ปนเปื้อน เชื้อโรคอย่าง เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต จะเป็นต้นเหตุสำคัญในการเกิดอาหารเป็นพิษ

  • ซาลโมเนลลา (Salmonella) : พบได้ในเนื้อสัตว์ดิบ ไข่ดิบ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
  • ชิเกลล่า (Shigella) : พบได้ในการปนเปื้อนผลิตภัณฑ์อาหารสด น้ำดื่มที่ไม่สะอาด รวมไปถึงการสัมผัสกับคนที่มีเชื้อโดยตรง เช่น เอามือที่อาจมีเชื้อไปจับอาหารสด
  • คลอสติเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โดยเชื้อตัวนี้จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ๆมีออกซิเจนน้อย ทำให้พบได้มากในภาชนะ หรือบรรจุภัณฑ์ปิดสนิท และอาจผ่านกระบวนการผลิต ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อย่าง ผักดอง หรือ เนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ เช่น แฮม เป็นต้น
  • อีโคไล (E. Coli) บางสายพันธ์ุ พบมากในเนื้อสัตว์ดิบ
  • ไวรัสที่ก่อโรคในทางเดินอาหาร (Enteric Viruses)  ที่มักปนเปื้อนได้ทั้งในอาหารสด สัตว์น้ำที่มีเปลือก และน้ำดื่มที่ไม่สะอาด

อาหารที่ทำให้เราเสี่ยงอาหารเป็นพิษ !

  • อาหารดิบ หรือสุกๆดิบๆ
  • อาหารหมักดอง หรืออาหารกระป๋องที่อาจไม่ได้มาตราฐาน เช่น กระป๋องรั่ว กระป๋องขึ้นสนิท
  • อาหารที่ผ่านการปรุงแบบไม่สะอาด เช่น ใช้เขียงหั่นผักและผักร่วมกัน
  • อาหารรสจัด
  • อาหารที่มีแมลงวันตอม
  • อาหารข้ามคืน หรือทิ้งระยะเวลาไว้นาน โดยไม่ได้มีการอุ่นก่อน
  • น้ำแข็งจากการผลิตที่ไม่ได้มาตราฐาน

เป็นอาหารเป็นพิษ ทำยังไง ?

การดูแล ป้องกันและรักษา อาหารเป็นพิษเบื้องต้นคือ

  • กินอาหารที่ปรุงสุก และสะอาด
  • ล้างมือทุกครั้งก่อนกินข้าวทุกครั้ง
  • ควรละลายอาหารแช่แข็งด้วยไมโครเวฟ ไม่ควรปล่อยให้ละลายเองตามธรรมชาติ
  • งดอาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด
  • ดื่มน้ำให้มากๆ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • หากมีอาการคลื่นไส้ สามารถกินยาแก้คลื่นไส้ได้
  • ดื่มเกลือแร่ (****ดื่มเกลือแร่ ORS)

เกลือแร่สำหรับคนท้องเสีย ORS VS เกลือแร่นักกีฬา ORT

ORS  หรือ Oral Rehydration Salt คือเกลือแร่ที่จะช่วยทดแทนการเสียน้ำจากอาการท้องเสีย หรืออาเจียนที่ร่างกายเราสูญเสียไป

โดยเมื่อเราท้องเสีย หรืออาเจียนบ่อยๆ ร่างกายอาจขาดน้ำและเกลือแร่ จึงจำเป็นต้องดื่มเกลือแร่ ORS เข้ามาทดแทน

หากไปดื่มเกลือแร่ ORT หรือ Oral Rehydration Therapy สำหรับคนที่ออกกำลังกายแล้ว อาจทำให้ยิ่งมีอาการ หรือไปกระตุ้นอาการท้องเสียเพิ่มมากขึ้นได้ เนื่องจากในตัวเครื่องดื่มเกลือแร่ ORT จะมีปริมาณน้ำตาลและเกลือแร่บางชนิดที่ค่อนข้างสูง จึงอาจทำให้ร่างกายเราดึงน้ำมาในทางเดินอาการมากขึ้น ส่งผลให้กระตุ้นอาการท้องเสีย หรือถ่ายเหลวได้


ยาปฏิชีวนะ VS อาหารเป็นพิษ

คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าหากอาหารเป็นพิษเกิดจากการติดเชื้อ งั้นก็กินยาปฏิชีวนะสิ..!  แต่อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น หากมีอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาโดยการดื่มน้ำให้มากๆ ดื่มเกลือแร่และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็อาจสามารถหายได้เอง เพราะยาปฏิชีวนะไม่สามารถแก้อาหารเป็นพิษได้ทุกกรณี เพราะยาปฎิชีวนะจะฆ่าเชื้อโรค แต่ไม่มีผลกับสารพิษ หรือพิษที่เป็นผลมาจากเชื้อโรคอีกทีใดๆ


ยาคาร์บอนแก้ท้องเสีย VS อาหารเป็นพิษ

ยาคาร์บอน หรือยาช่วยหยุดถ่ายใดๆ จะไม่แนะนำในกรณีที่เป็นการติดเชื้อในทางเดินอาหาร เพราะจะทำให้ไม่ถ่ายและทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเชื้อโรคในทางเดินอาหารได้ เป็นการสะสมเชื้อโรคแทน

คาร์บอน เม็ดสีดำ ที่เราเชื่อว่าจะช่วยดูดซับสารพิษออกจากร่างกายได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้มีวิจัย หรือการยืนยันที่แน่ชัดจริงๆว่า คาร์บอนมีส่วนช่วยจริงๆมั้ย


คาร์บอนอาจมีส่วนช่วยจริงในการดูดซับสาร แต่มันไม่ได้ดูดซับแค่สารพิษ แต่อาจดูดซับสารอาหารและยาบางชนิดด้วย เพราะฉะนั้นควรทานให้ห่างจากตัวยาอื่นๆ อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการดูดซับตัวยาอื่นๆของคาร์บอน


เชื่อว่าหลายๆคนอาจเคยผ่านการเป็นอาหารเป็นพิษมาอยู่บ้าง บางคนอาจหายได้เองภายในวันหรือสองวัน บางคนอาจต้องเข้าโรงพยาบาล แต่รู้หรือไม่ว่า การเป็นอาหารเป็นพิษ อาจทำให้เราเสียชีวิตได้…!?


ได้ยังไงกันล่ะ..?


เราสามารถเสียชีวิตจากอาหารเป็นพิษได้มั้ย..?

อาหารเป็นพิษอาจทำให้เราเสียชีวิตได้จากภาวะแทรกซ้อนของมันเอง โดยอาจทำให้เราอยู่ในภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ได้ จากอาการท้องเสียและอาเจียน รวมถึงอาการไม่อยากอาหารหรือกินอาหารไม่ได้ของผู้ป่วย จนทำให้ร่างกายช็อก และแน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นอันตนายต่อชีวิตได้


โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบสหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น


นอกจากนี้เชื้อโรคยางชนิดที่อาจทำให้เราเป็นอาหารเป็นพิษ อาจทำอันตรายต่ออวัยวะอื่นๆของเราได้ เช่น  เช่น เชื้ออีโคไลชนิดรุนแรง (Shiga Toxin-Producing E. Coli) ที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและไตวาย จนอาจถึงแก่ชีวิตได้ เป็นต้น


ถึงแม้การเสียชีวิตจากโรคอาหารเป็นพิษจะมีน้อยมาก แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราควรลดปัจจัย และพฤติกรรมเสี่ยงโรคนี้ เราควรจะกินอาหารสุก และหมั่นตรวจเช็คร่างกายของเราด้วย !

หากมีอาการผิดปกติ หรือความไม่สบายใจใดๆ สามารถคัดกรอง หรือเช็คอาการก่อน ด้วยแอปพลิเคชั่น Agnos ด้วย AI หรือปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้ด้วยเช่นกัน



อ้างอิง : https://www.agnoshealth.com/articles/irritable-bowel-syndrome-vs-food-poisoning

https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1892

https://www.medparkhospital.com/content/food-poisoning

https://mordeeapp.com/th/article

https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/274

https://www.sikarin.com/health/อาหารเป็นพิษ-อร่อยปาก-ลำ

https://www.rajavithi.go.th/rj/?p=3728

https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1847223

https://www.si.mahidol.ac.th/th/tvdetail.asp?tv_id=403

https://www.pobpad.com/


บทความที่เกี่ยวข้อง

article-cover
  • อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)

ลำไส้แปรปรวน vs อาหารเป็นพิษ ต่างกันยังไง?

บางคนอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “อร่อยปาก ลำบากกาย” กันมาบ้าง กินจัดเต็มทีไร ก็ท้องเสีย แน่นท้องทุกที ! ไม่ว่าจะปวดท้องข้างซ้ายที ข้างขวาที ปวดจนไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะกินยาอะไร เป็นทีก็คิดว่าตัวเองเป็น “อาหารเป็นพิษ” แน่ๆเลย แต่เดี๋ยวก่อน… อาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสียเนี่ย ไม่ได้มีแต่อาหารเป็นพิษเท่านั้น ยังมีอีกโรคที่คล้ายๆกันอย่าง “โรคลำไส้แปรปรวน” แล้วสองอย่างนี้มันต่างกันยังไง..? อันดับแรกเรามาทำความรู้จักกับ “โรคลำไส้แปรปรวน” กันก่อน ! โรคลำไส้แปรปรวน หรือ (Irritable Bowel Syndrom

article-cover
  • ท้อง, ทางเดินอาหาร, การขับถ่าย
  • อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)

อาหารเป็นพิษ (Food poisoning)

รักษา อาหารเป็นพิษ ควรกินยาอะไร? ข้อมูลโรคและสาเหตุการเกิดโรค อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) เกิดจากการรับประทานอาหาร หรือ ดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อน ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือ ปวดท้อง ซึ่งอาการส่วนใหญ่มักไม่ร้ายแรง แต่หากเกิดอาการรุนแรงขึ้นก็อาจทำให้ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่จนเป็นอันตรายได้ โดยอาหารเป็นพิษเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน จึงควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารอยู่เสมอ สาเหตุของการเกิดอาหารเป็นพิษมาจากการรับประทานเชื้อโรค หรือสารพิษที่เกิดจากเชื้อโรคเข